Take Home Exam
Subject: Management tool for knowledge management
1. ให้นักศึกษาหาข้อมูลเพื่อพยากรณ์ค่าของเงินบาทต่อเงิน US dollar ณ วันที่ 12 ตุลาคม 50 ว่าค่าเงิน บาทแข็งตัวหรืออ่อนตัว เมื่อเทียบกับอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างเงินบาทกับเงิน US dollar ณ วันที่ 22 กันยายน 50
จากข้อมูลอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ โดยลำดับเหตุการณ์จากวันที่ 24 กันยายน ถึงวันที่ 11 ตุลาคม 2550 สรุปสถานะของค่าเงินบาทได้ดังนี้และคาดการณ์ว่าสถานะของค่าเงินบาท จะแข็งตัวไปจนถึง วันที่ 31 ตุลาคม 2550
เลือกตอบ
ก. ค่าเงินบาทคงที่ หมายถึง ค่าของเงินเพิ่มขึ้น หรือลดลงไม่เกิน 1 % ของอัตราการแลกเปลี่ยน Bath : US dollar และคาดการณ์ว่าสถานะของค่าเงินบาท จะคงที่ไปจนถึง วันที่ 31 ตุลาคม 2550โดยมีเหตุผลประกอบดังต่อไปนี้
ตามหลักเศรษฐศาสตร์นั้น การที่ค่าเงินบาทแข็งตัวขึ้นได้ เพราะคนมีความต้องการเงินบาทมากกว่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ ทำให้เงินจากต่างชาติไหลเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งตัวขึ้น ประกอบกับเงินดอลล่าร์สหรัฐฯอยู่ในช่วงอ่อนตัวลงพอดี โยมีปัจจัยประกอบการพิจารณาดังต่อไปนี้
1. ความไม่สมดุลของภาวะเศรษฐกิจโลก (Global Imbalance)
สาเหตุหลักของความไม่สมดุลในปัจจุบัน มาจากเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาชะลอตัว แต่ก็หลีกเลี่ยงที่จะถือเพิ่มขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียขยายตัวดี โดยเฉพาะจีน และอินเดีย ญี่ปุ่นซึ่งมีอิทธิพลต่อค่าเงินบาท ทำให้ค่าเงินบาทแข็งตัวไปด้วย
2. การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ
ไม่ว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลงตามภาวะความไม่สมดุลของเศรษฐกิจโลก หรือเพราะความจงใจของสหรัฐฯ เอง แต่ขณะนี้ค่าเงินดอลลาร์ได้อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ ที่ผ่านมาประเทศสหรัฐอเมริกาได้ผลประโยชน์จากประเทศต่างๆทั่วโลก การค้าระหว่างประเทศส่วนมากจะชำระเงินเป็นดอลล่าร์ เมื่อสหรัฐขาดดุลการค้ากับประเทศในเอเชีย จึงทำให้ค่าเงินบาทแข็งตัว
3. การเพิ่มขึ้นของดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย
ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา จากยอดการส่งออก และดุลบริการที่เพิ่มขึ้น นับเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ความต้องการเงินบาทเพิ่มขึ้นในตลาด เพราะเมื่อผู้ส่งออกรับรายได้มาเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ ต้องแลกกลับเป็นเงินบาท เนื่องจากประเทศไทยเป็นสังคมทางเกษตร ผลผลิตทางการเกษตรได้ผลดี ต้นทุนต่ำ ข้าว นำมัน ยาง ปาล์ม กุ้ง และผลผลิตจากทะเลไม่ต้องชำระ ภาษี ทำให้ภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศขยายตัวไปได้
4. การไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติ
โลกปัจจุบันมีการเชื่อมโยงทางการเงินสูง และประเทศไทยเอง ก็เปิดให้มีการเคลื่อนย้ายเงินทุนได้สะดวก แต่เพราะเป็นประเทศเล็ก ระบบการเงินเริ่มพัฒนา โดยผู้ร่วมตลาดยังไม่คุ้นเคยกับเครื่องมือทางการเงิน และป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน จึงเปราะบางต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่รวดเร็ว และมีจำนวนสูง แหล่งที่เงินทุนต่างประเทศไหลเข้า หากเป็นเงินทุนเพื่อลงทุนขยายธุรกิจ หรือตั้งโรงงาน เมื่อเข้ามาแล้ว แลกเป็นบาทมาลงทุน เกิดโรงงาน เกิดการจ้างงาน จ่ายผลตอบแทนหมุนเวียนกลับไปยังผู้ลงทุนเป็นดอลลาร์ เช่นกองทุนป้องกันความเสี่ยง (Hedge Fund ) เป็นกองทุนที่ระดมเงินทุนจากมหาเศรษีทั่วโลก กองทุนพวกนี้เน้นการเข้ามาเก็งกำไร ประเทศที่เขาคิดว่าระบบการเงินอ่อนแอ
5. การเก็งกำไร การไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติยังพุ่งไปยังตลาดหุ้น เหตุผลหลัก คือซื้อหุ้นเพื่อนำเงินมาพักไว้ก่อน เมื่อเงินบาทแข็งในระดับหนึ่งแล้ว ก็ขายหุ้น และนำเงินบาทไปแลกเงินดอลลาร์ที่ได้จำนวนมากขึ้น เป็นการกินกำไรส่วนต่างอย่างชัดเจน และการเก็งกำไรเพราะอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างตลาด On Shore และ Off Shore แตกต่างกัน โดยค่าเงินบาทในตลาด Off Shore แข็งกว่าตลาด On Shore ตลาด On Shore หมายถึงการซื้อขายเงินตราต่างประเทศแลกกับเงินบาท ระหว่างคนไทยด้วยกัน หรือระหว่างคนไทยกับต่างชาติ ตลาด Off Shore หมายถึงการซื้อขายเงินตราต่างประเทศระหว่างคนต่างชาติด้วยกันเอง แม้จะมีเกณฑ์กำหนดจำนวนเงินที่สามารถนำออกนอกประเทศได้ แต่ไม่มีใครมั่นใจได้ว่าไม่มีการลักลอบขนเงินออกนอกประเทศไทย หากทำสำเร็จ ณ เดือนมีนาคม อัตราแลกเปลี่ยนในตลาด Off Shore 1 ดอลลาร์เท่ากับ 32-33 บาท ขณะที่อัตรา On Shore อยู่ที่ประมาณ 34-35 บาท ส่วนต่างกำไรอยู่ที่ 1-2 บาทต่อดอลลาร์
